ผลการดำเนินงาน
จำนวน (ล้านบาท) | เปลี่ยนแปลง | ||
2555 | 2554 | YoY (%) | |
รายได้รวม | 8,160.25 | 6,055.56 | 34.76% |
ต้นทุนรวม | 6,884.40 | 5,203.36 | 32.31% |
กำไรขั้นต้น | 1,275.85 | 852.20 | 49.71% |
ค่าใช้จ่ายขายและบริหาร | 793.57 | 582.30 | 36.28% |
กำไรก่อนดอกเบี้ยและภาษี | 482.28 | 269.89 | 78.70% |
กำไรสุทธิ | 348.76 | 171.59 | 103.26% |
รายได้
รายได้รวมของบริษัทเพิ่มขึ้นจาก 6,055.56 ล้านบาทในปี 2554 เป็น 8,160.25 ล้านบาทในปี 2555 คิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้น ร้อยละ 34.76 ทั้งนี้สาเหตุของการเกิดจากเพิ่มขึ้นของรายได้ดังต่อไปนี้
- รายได้จากการขายซึ่งเป็นรายได้หลักของบริษัท ได้แก่ การจำหน่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่, อุปกรณ์เสริมต่างๆ โดยเพิ่มขึ้นจาก 5,487.34 ล้านบาท ในปี 2554 เป็น 7,439.09 ล้านบาท ในปี 2555 หรือเพิ่มขึ้น 1,951.76 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 35.57 เนื่องจากปริมาณการขายที่เพิ่มขึ้นผลจากการขยายช่องทางการจัดจำหน่าย
- รายได้รวมจากการให้บริการติดตามหนี้สินและบริการอื่นและจากการเรียกเก็บหนี้เงินลงทุนในลูกหนี้เพิ่มขึ้นจาก 323.52 ล้านบาท ในปี 2554 เป็น 393.54 ล้านบาท ในปี 2555 หรือเพิ่มขึ้น 70.01 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 21.64 เนื่องจากมีการประมูลซื้อหนี้ด้อยคุณภาพเข้ามาบริหารเองเพิ่มขึ้น
- รายได้ค่าเช่า เป็นรายได้จากการให้เช่าพื้นที่รูปแบบการบริหารพื้นที่ค้าปลีกภายใต้ชื่อ IT Junction โดยในปี 2555 บริษัทมีรายได้ค่าเช่าเท่ากับ 253.10 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2554 เท่ากับ 32.00 ล้านบาท หรือร้อยละ 14.47 เนื่องจากมีการขยายพื้นที่ให้เช่าและปรับอัตราค่าเช่าเพิ่มขึ้น
สำหรับรายได้อื่นๆ เพิ่มขึ้นจาก 23.60 ล้านบาท ในปี 2554 เป็น 74.52 ล้านบาท ในปี 2555 หรือเพิ่มขึ้น 5.77 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 215.74 เกิดจากกำไรจากการปรับมูลค่ายุติธรรมของอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุน
ต้นทุนขาย
ในปี 2555 และ ปี 2554 บริษัทมีต้นทุนขาย 6,884.40 ล้านบาท และ 5,203.37 ล้านบาท ตามลำดับ โดยส่วนใหญ่ต้นทุนขายเพิ่มขึ้นตามรายได้จากการขายที่เพิ่มขึ้น
สำหรับต้นทุนขายประกอบด้วยต้นทุนผลิตภัณฑ์โทรศัพท์เคลื่อนที่และอุปกรณ์เสริม ซึ่งบริษัทซื้อจากผู้ผลิตโทรศัพท์เคลื่อนที่หรือตัวแทนจำหน่ายของผู้ผลิตทั้งในประเทศและต่างประเทศ นอกจากนี้ ยังมีต้นทุนการเช่าพื้นที่จากธุรกิจบริหารพื้นที่ค้าปลีก และต้นทุนในการซื้อหนี้และการว่าจ้างพนักงานติดตามหนี้ในธุรกิจบริหารติดตามเร่งรัดหนี้สินและบริหารหนี้
ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร
ในปี 2555 และปี 2554 บริษัทมีค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร 793.57 ล้านบาท และ 582.30 ล้านบาท ตามลำดับ เพิ่มขึ้น 211.26 ล้านบาท คิดเป็น ร้อยละ 36.28 เมื่อเทียบกับปีก่อน สาเหตุหลักเกิดจากค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการด้านการตลาดและกิจกรรมต่างๆเพิ่มขึ้น รวมทั้งค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการสิทธิ ESOP
กำไรสุทธิ
ในปี 2555 บริษัทมีกำไรขั้นต้น 1275.85 ล้านบาท และในปี 2554 บริษัทมีกำไรขั้นต้น 852.20 ล้านบาท โดยเพิ่มขึ้นในอัตราร้อยละ 49.71 เนื่องจากปริมาณการขาย, การขยายพื้นที่ IT Junction และซื้อหนี้ด้อยคุณภาพเข้ามาบริหารเพิ่มขึ้นทำให้กำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น
ในปี 2555 และ ปี 2554 บริษัทมีกำไรสุทธิ 348.76 ล้านบาท และ 171.59 ล้านบาทตามลำดับ โดยเพิ่มขึ้นในอัตราร้อยละ 103.26 คิดเป็นกำไรต่อหุ้นที่ 0.96 และ 0.57 บาทต่อหุ้น
ฐานะทางการเงิน
สินทรัพย์
ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2555 บริษัทมีสินทรัพย์รวม 3,480.67 ล้านบาท แบ่งเป็นสินทรัพย์หมุนเวียน 1,750.98 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 50.31 ของสินทรัพย์รวม และสินทรัพย์ไม่หมุนเวียน 1,729.68 ล้านบาท คิดเป็น ร้อยละ 49.69 ของสินทรัพย์รวม เมื่อเทียบกับ ณ สิ้นปี 2554 บริษัทมีสินทรัพย์รวมเพิ่มขึ้น 1,758.83 ล้านบาท หรือ ร้อยละ 102.10
โดยมีการเปลี่ยนแปลงของสินทรัพย์ที่เป็นสาระสำคัญในปี 2555 ดังนี้
- ลูกหนี้การค้า-สุทธิ เท่ากับ 285.85 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 8.21 ของสินทรัพย์รวม เพื่มขึ้นจากปีก่อน 86.80 ล้านบาท เนื่องจากมีการขายแบบค้าส่งเพิ่มขึ้น โดยในด้านคุณภาพของลูกหนี้การค้า บริษัทมีลูกหนี้ที่ยังไม่ครบกำหนดและค้างชำระไม่เกิน 3 เดือน คิดเป็นร้อยละ 98.95 ของลูกหนี้การค้าทั้งหมด และลูกหนี้ค้างชำระเกิน 3 เดือน เพียงร้อยละ 1.05 เท่านั้น
- สินค้าคงเหลือ-สุทธิ เท่ากับ 901.54 ล้านบาท คิดเป็ นร้อยละ 25.90 ของสินทรัพย์รวม เพิ่มขึ้น จากปีก่อน 395.52 ล้านบาท เนื่องจากทางบริษัทจำหน่ายสินค้าได้เพิ่มขึ้น ตามยอดขายที่เพิ่มขึ้น
- เงินลงทุนในลูกหนี้-สุทธิ เท่ากับ 547.82 ล้านบาท คิดเป็ นร้อยละ 15.74 ของสินทรัพย์รวม เพิ่มขึ้น จากปีก่อน 188.54 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทมีซื้อหนี้ด้อยคุณภาพเข้ามาบริหารเพิ่มขึ้น
- ที่ดิน อาคาร และอุปกรณ์-สุทธิ เท่ากับ 617.48 ล้านบาท คิดเป็ นร้อยละ 17.74 ของสินทรัพย์รวม เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 401.33 ล้านบาท เนื่องจากค่าก่อสร้างและค่าตบแต่งอาคารเจมาร์ท
- อสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุน เท่ากับ 210.90 ล้านบาท คิดเป็ นร้อยละ 6.06 จากการขยายธุรกิจให้เช่าพื้นที่ J-market
หนี้สิน
ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2555 บริษัทมีหนี้สินรวม 1,746.84 ล้านบาท เมื่อเทียบกับ ณ สิ้นปี 2554 แล้ว เพิ่มขึ้น 698.34 ล้านบาท หรือร้อยละ 66.60 โดยมีการเปลี่ยนแปลงของหนี้สินที่เป็นสาระสำคัญในปี 2555 ดังนี้
- เงินเบิกเกินบัญชีและเงินกู้ยืมระยะสั้นจากสถาบันการเงิน เท่ากับ 1,071.28 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 454.73 ล้านบาท
- เจ้าหนี้การค้า เท่ากับ 220.07 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 38.76 ล้านบาท เนื่องจากเพิ่มปริมาณการสั่งซื้อสินค้า
- เงินกู้ยืมระยะยาว เท่ากับ 221.59 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 133.72 ล้านบาท จากการซื้อที่ดินและอาคารเจมาร์ท
สภาพคล่อง
สำหรับใน ปี 2555 บริษัทมีรายการเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดเพิ่มขึ้นสุทธิ 63.38 ล้านบาท โดยแยกเป็นรายละเอียดกระแสเงินสดแต่ละกิจกรรมดังนี้
ปี 2555 | ปี 2554 | |
กระแสเงินสดจากกิจกรรมดำเนินงาน | (506.01) | 163.39 |
กระแสเงินสดจากกิจกรรมลงทุน | (664.83) | (159.77) |
กระแสเงินสดจากกิจกรรมจัดหาเงิน | 1,234.23 | 16.39 |
เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดเพิ่มขึ้น (ลดลง) สุทธิ | 63.38 | 20.01 |
กระแสเงินสดจากกิจกรรมดำเนินงาน ในปี 2555 บริษัทมีเงินสดจ่ายสุทธิในกิจกรรมการดำเนินงาน 506.01 ล้านบาท ซึ่งเกิดจากการเพิ่มขึ้นของสินค้าคงเหลือและเงินลงทุนในลูกหนี้ สำหรับปี 2554 บริษัทมีเงินสดสุทธิได้มาจากกิจกรรมการดำเนินงาน 163.39 ล้านบาท สาเหตุเกิดจากผลกำไรจากการดำเนินงาน
กระแสเงินสดจากกิจกรรมลงทุน ในปี 2555 บริษัทมีเงินสดจ่ายสุทธิจากกิจกรรมการลงทุน 664.83 ล้านบาท ซึ่งเกิดจากเงินสดจ่ายค่าก่อสร้างอาคารเจมาร์ทและอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุน ในขณะที่ปี 2554 บริษัทมีเงินสดจ่ายสุทธิจากกิจกรรมการลงทุน 159.77 ล้านบาท เกิดจากซื้อดินและค่าก่อสร้างอาคารเจมาร์ท
กระแสเงินสดจากกิจกรรมจัดหาเงิน ในปี 2555 บริษัทมีเงินสดสุทธิได้มาจากกิจกรรมการจัดหาเงิน 1,234.23 ล้านบาท ซึ่งสาเหตุหลักเกิดจากการกู้ยืมเงินจากสถาบันการเงินและการเพิ่มทุน ในขณะที่ปี 2554 บริษัทมี เงินสดจ่ายสุทธิใช้ไปในกิจกรรมจัดหาเงิน 345.12 ล้านบาท ซึ่งสาเหตุหลักเกิดจากการกู้ยืมระยะสั้นและระยะยาวจากสถาบันการเงิน
ด้านอัตราส่วนสภาพคล่องของบริษัท เท่ากับ 1.20 เท่า ในปี 2555 เทียบกับ 1.07 เท่าในปี 2554 บริษัทมีอัตราส่วนสภาพคล่องเพิ่มขึ้นจากสินค้าคงเหลือที่เพิ่มขึ้น
แหล่งที่มาของเงินทุน
แหล่งเงินทุนที่สำคัญของบริษัทประกอบด้วย เงินทุนจากผู้ถือหุ้นและเงินกู้ยืมระยะสั้นจากสถาบันการเงิน โดย ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2555 บริษัทมีส่วนของผู้ถือหุ้นรวม 1,733.82 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2554 เท่ากับ 1,060.49 ล้านบาท หรือ ร้อยละ 157.50 โดยเป็นการออกหุ้นเพิ่มทุน 552.23 ล้านบาท การเพิ่มขึ้นของกำไรสะสมที่ยังไม่ได้จัดสรร 376.38 ล้านบาท ทั้งนี้ในระหว่างปี 2554 บริษัทได้มีการจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้น 2 ครั้ง รวมจำนวนเงิน 160.38 ล้านบาท ในส่วนของเงินกู้ยืมระยะสั้นจากสถาบันการเงิน ณ 31 ธันวาคม 2555 เท่ากับ 1,071.28 ล้านบาท เพิ่มขึ้น จากปี ก่อน 454.73 ล้านบาท หรือ ร้อยละ 73.75