วันพฤหัสบดีที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2556

ราคาหุ้น



ก่อนอื่นต้องบอกว่าจุดตั้งต้นของทฤษฎีนี้ผมไม่ได้คิดขึ้นมาเอง แต่เห็นจากหนังสือพิมพ์ลงบทสัมภาษณ์ของคุณพนิต วิกิตเศรษฐ์ ในสมัยก่อนที่ท่านจะมาเป็นผู้ช่วย รมต. ซึ่งบทสัมภาษณ์นั้นกล่าวว่า


ราคาหุ้น = มูลค่าหุ้น + ความคาดหวังของตลาด

เมื่อผมเห็นแล้วก็รู้สึกชอบมาก ผ่านมาหลายปีผมคิดว่าน่าจะเอาแนวคิดนี้มาต่อยอด ...หากว่าผมกำลังวิเคราะห์หุ้นตัวหนึ่งและทราบมูลค่าที่แท้จริงของมันได้ ผมนำราคาหุ้นมาพล็อตเทียบกับมูลค่าหุ้น เมื่อใดก็ตามที่ความคาดหวังของตลาดติดลบมากเกินไป ผมก็จะซื้อหุ้นตัวนั้น ในทางกลับกันถ้าตลาดมีความคาดหวังเป็นบวกมากเกินไป ผมก็จะขายหุ้นตัวนั้น
ปัญหาอยู่ที่มากเกินไปคือเท่าไหร่? อันนี้ก็ต้องแล้วแต่นักลงทุนล่ะครับ บางทีอาจกำหนดเป็นเปอร์เซ็นต์เทียบกับราคาหุ้นก็สมเหตุสมผลดี
ปัญหาคลาสสิคอีกอันหนึ่งคือการหามูลค่าที่แท้จริงของหุ้น ผมแนะนำว่าควรคิดถึงตัวกิจการก่อน คิดจากยอดขายและกำไรที่บริษัททำได้ย้อนหลังไปหลายๆ ปี แล้ว project ไปข้างหน้าโดยตั้งสมมติฐานเริ่มแรกว่าบริษัทมีผลการดำเนินงานคงเส้นคงวา แต่ถ้าบริษัทมีแววว่าจะเติบโตเป็นพิเศษก็ต้องปรับเพิมให้เขาด้วยนะครับ จากนั้น discount ผลกำไรที่ว่านั้นกลับมาที่ปัจจุบัน จะได้มูลค่าของทั้งบริษัท แล้วเราค่อยหารด้วยจำนวนหุ้นทั้งหมดก็จะได้มูลค่าหุ้นที่แท้จริงครับ ส่วนในการพล็อตก็ต้องปรับเพิ่มมูลค่าหุ้นตามจำนวนวันที่ผ่านไปด้วย พอจะสู้ไหวใช่มั๊ยครับ